สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลี

1.ชองเก พลาซ่า
จุดเริ่มของคลองชองเกชอนน้ำพุที่ประดับประดา ไปด้วยไฟสามสี น้ำพุดอกไม้ไห และน้ำพุสองชั้น ที่ในแต่ละวันต้องปั้มน้ำ 65,000ตัน ที่ก้นคลองสว่างเรือง ๆด้วยไฟอ่อน ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบ และเยือกเย็น

2.สะพานควังทงเกียว
สะพานควังทงเกียวเคยเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ถูกสร้างขึ้นในปีที่ 10 แห่งการครองราชย์ของกษัตริย์ แทจง (กษัตริย์คนที่ 3ของโชซอน) ใช้เป็นถนนหลวงสำหรับเชื้อพระวงศ์และชนชั้นขุนนาง สะพานนี้ได้อยู่ในโครงการฟื้นฟูคลองชองเกชอน ซึ่งได้รับการบูรณะแล้ว ยังถูกย้ายที่ตั้งให้ขึ้นไปทางต้นน้ำประมาณ 150 ม.จากที่ตำแหน่งเดิม

3.บันชาโด ภาพวาดขวบแห่ของกษัตริย์ชองโจ
บันชาโดเป็นภาพวาดบนกำแพงเซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดับที่เขื่อนซ้ายของคลองชองเกชอนตรงช่วงระหว่างสะพานควางเกียว บันชาโดที่เป็นของดั้งเดิมนั้นเป็นภาพวาดแสดงการเยี่ยมสุสานของพระราชบิดาและพระราชมารกาของกษัตริย์ชองโจ เป็นเวลา 8 วันจากภาพดั้งเดิมนี้ได้ถูกนำมาวาดใหม่ บนกำแพงยาว 192 ม. ซึ่งมีข้าราชบริพาร 1,779 คน และม้าอีก 779 ตัว ผู้ชมจะได้เห็นทุกรายละเอียดของแบบแผน เครื่องแต่งกายรูปแบบในสมัยนั้น และขนาดของขบวนแห่

4.กำแพงวัฒนธรรม และกำแพงแซกดง(กำแพงสายรุ้ง)
กำแพงวัฒนธรรมตั้งอยู่ที่ต้นคลองใกล้กับประตูโอกันซูมุน ประมาณครึ่งกำแพงในน้ำแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยห้าคนภายใต้แนวคิด “ทางสู่อนาคต”รวมไปถึงกำแพงแซกดงที่แสดงสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี ซึ่งทำให้คลองชองเกชอนเป็นบริเวณที่จะได้ชื่นชมศิลปะ


5.สถานที่ตั้งประตูโอกันซูมุน
ประตูโอกันซูมุนแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างประตูฮึนอินจิมุน และประตูควางฮวามุน ถูกสร้างขึ้นในช่วงการสร้างเมืองหลวงในสมัยต้นราชวงศ์โชซอนนักท่องเทียวจะได้เห็นภาพถ่ายของประตูระบายน้ำฟ้าช่องซึ่งมีน้ำไหลออกจากเมืองโดยตลอด และแบบจำลองที่เป็นสัญลักษณ์ของประตู ถัดจากประตูระบายน้ำคือสะพานโอกันซูเกียว ที่มีพระราชหัตถเลขาของกษัตริย์ยงโจจารึกอยู่ที่กินด้านล่างสะพาน ซึ่งแสดงให้เห็นการทำงานขุดคลองของเหล่าข้าราชบริพาร และมีโครงภาษาจีนสดุดีความสำเร็จของกษัตริย์เป็นตัวอักษรจีนพร้อมคำแปลภาษาเกาหลีอยู่ด้วย


6.บริเวณที่ใช้ซักผ้าในยุคโบราณ
ความสำคัญของพื้นที่บริเวณนี้คือ ครั้งหนึ่งเป็นที่สำหรับให้ผู้หญิงมาซักผ้า เป็นพื้นที่ระหว่างสะพานดาซานเกียวและสะพานยองโดเกียวแม่บ้านในกรุงโซลชอบที่จะมาซักผ้ากันที่นี่แม้แต่ในฤดูหนาว เพราะว่าที่นี่มีแดดตลอด ปัจจุบันห้ามไม่ให้มีการซักผ้าที่คลองแล้ว แต่ก็มีการจัดพื้นที่โดยนำแผ่นหินเอียงที่เคยใช้ซักผ้ามาจัดวาง

7.กำแพงแห่งความหวัง
กำแพงแห่งความหวังตั้งอยู่ระหว่างมณฑลชองเกชอน 8-กา และ 9-กา ดูสวยงานทั้งสองฝั่งของคลองเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเสียใจต่อการแบ่งแยกเกาหลีเหนือและใต้ ถูกสร้างจากแผ่นกระเบื้องโดยชาวกรุงโซล ชาวเกาหลีเหนือ และชาวเกาหลีในต่างแดน รวมกว่า 20,000 คน เพื่อเป็นความหวังของความเป็นปึกแผ่นที่จะรวมชาติกันอีกครั้ง ตัวกำแพงยาว 50 ม. ทั้งสองด้าน และสูง 2.2 ม. ถือเป็นกำแพงที่ทำจากกระเบื้องเซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก


8.กำแพงน้ำตกเป็นจังหวะ
กำแพงหินอ่อนสูง 5 ม. และยาว 20 ม. มีน้ำไหลตกลงมา พื้นผิวของกำแพงตกแต่งด้วยหินรูปวงรีสีดำ ดูเหมือนปลากำลังวายทวนน้ำขึ้นไป ในตอนกลางคืนกำแพงจะถูกเติมสีสันด้วยแสงไฟทำให้ดูเหมือนน้ำกำลังตกลงมาเป็นจังหวะดนตรี


9.น้ำพุอุโมงค์
กำแพงขนาดความสูง 5 ม. ยาว 50 ม. มีท่อพ่นน้ำจำนวน 42 ท่อ พ่นน้ำออกมาเป็นรูปพาราโบล่าเหนือทางเดิน เกิดเป็นลักษณะของอุโมงค์น้ำ ตอนกลางคืนมีแสงไฟหลากสีช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูลึกลับ


10.ท่าเรือจนชิ
ระหว่างสะพานบิอูดังเกียวและสะพานมูฮักเกียว มีท่าเรืออยู่สามแห่ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกใช้สำหรับการเดินทางข้ามคลอง ปัจจุบันกกลายเป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงขอบเขตของคลองข้างทางสัญจร และยังเป็นสัญลักษณ์ของโครงการบูรณะคลองซองเกซอนนี้


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS